
21.05 @ 09:14
By The Market Research Team
Target กำลังจะดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 5 ปี หลังประกาศผลประกอบการวันนี้หรือไม่?
เขียนเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2025 โดย Han Tan, หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดแห่ง Exinity Group
- Target เตรียมประกาศผลประกอบการก่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดวันนี้ (พุธที่ 21 พ.ค.)
• ความกังวลด้านภาษีของสหรัฐฯ คาดว่าจะกระทบผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบฯ 2026 (3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.)
• คาดว่ายอดขายเทียบเคียงจะลดลง 1.8% เมื่อเทียบรายปี และ EPS จะลดลงมากกว่า 18%
• หลังประกาศผลประกอบการ คาดว่าราคาหุ้น Target จะเคลื่อนไหวขึ้นหรือลง 9.3% ภายในวันเดียว
• นักวิเคราะห์จาก Wall Street คาดการณ์ก่อนประกาศผลว่า หุ้น Target อาจมีโอกาสปรับขึ้นอีก 20.8% ภายใน 12 เดือนข้างหน้า
Target เตรียมเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบฯ 2026 ก่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเปิดทำการในวันพุธที่ 21 พฤษภาคมนี้
ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ หุ้นของ Target อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2019
ที่น่าสังเกตกว่านั้นคือ ราคาหุ้นยังไม่สามารถฟื้นกลับขึ้นไปเหนือระดับจิตวิทยาที่ $100 ได้อีกเลย นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษี “วันปลดแอก” เมื่อวันที่ 2 เม.ย.
ณ ราคาปิดของวันอังคารที่ 20 พ.ค. หุ้น Target ร่วงลงแล้ว 27.4% ตั้งแต่ต้นปีนี้
หากเปรียบเทียบกับดัชนีหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยดัชนี S&P 500 ปรับขึ้นกลับมาอยู่ที่บวก 1% YTD จะเห็นได้ชัดว่าหุ้น Target ฟื้นตัวยากเพียงใด
ในเชิงเทคนิค แม้จะพบแนวรับที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 วัน แต่ก็ยังถูกกดดันโดยค่าเฉลี่ย 50 วัน รวมถึงแนวต้านจิตวิทยาที่ $100 เช่นกัน
โอกาสกลับตัวจะเกิดขึ้นหลังเปิดตลาดวันนี้หรือไม่?
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่คาดหวังเช่นนั้น
ผลประกอบการไตรมาส 1 ปีงบฯ 2026 ของ Target: ประเด็นที่ต้องจับตา
นักวิเคราะห์จาก Wall Street คาดว่า ผลประกอบการที่ใกล้ประกาศจะสะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ชะลอลงของลูกค้า Target ซึ่งระมัดระวังมากขึ้นจากความไม่แน่นอนด้านภาษี
ตัวเลขสำคัญที่คาดไว้มีดังนี้:
• ยอดขายเทียบเคียง (Comparable Sales): ลดลง 1.84%
• ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อธุรกรรม: ลดลง 1.77%
ตัวเลขรายได้หลักที่ปรับปรุงแล้วที่น่าจับตา:
• รายได้รวม: 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ – ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีงบฯ 2021
→ คิดเป็นการลดลง 2.1% จาก Q1 ปีงบฯ 2025
- กำไรสุทธิ: 756.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีงบฯ 2023
- กำไรต่อหุ้น (EPS): 1.66 ดอลลาร์สหรัฐ
→ ลดลง 18.08% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
นักลงทุนยังจับตาแนวโน้มที่ผู้บริหารจะให้เกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคของชาวอเมริกันในภาวะที่อาจมีมาตรการภาษีเพิ่มเติม
Target จะได้รับแรงบันดาลใจจากยักษ์ค้าปลีกอื่นได้หรือไม่?
นักลงทุนฝั่งบวกคาดหวังว่า Target จะสามารถให้แนวโน้มผลประกอบการคล้ายกับ Home Depot ได้
ก่อนตลาดเปิดวันอังคารที่ 20 พ.ค. Home Depot – ผู้ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดของโลก – ยังคงคาดการณ์ยอดขายทั้งปีเท่าเดิม แม้จะมียอดขายเทียบเคียงลดลง 0.3% ในไตรมาสล่าสุด
Home Depot ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า:
• ปัญหาเศรษฐกิจเลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
• ภาษีจะไม่ส่งผลให้ราคาสินค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นมากนัก
แต่ถึงกระนั้น หุ้นของ Home Depot ก็ยังร่วงลง 0.6% หลังประกาศผล
ฝั่ง Walmart กลับแสดงมุมมองที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยระบุว่า ราคาสินค้ากำลังเริ่มขยับขึ้นจากผลของภาษี และมีแนวโน้มว่าจะต้องผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค
จึงต้องจับตาดูว่า Target จะสื่อสารกับนักลงทุนในลักษณะไหน – จะมั่นใจเหมือน Home Depot หรือเตือนภัยแบบ Walmart
ฉากทัศน์หลังประกาศผล
ตลาดคาดว่าราคาหุ้น Target อาจเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงประมาณ 9.3% ภายหลังจากการประกาศผลในวันนี้ (พุธที่ 21 พ.ค.)
- มุมมองบวก (BULLISH):
หากผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด และผู้บริหารแสดงความมั่นใจว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ ยังมีกำลังซื้อ หุ้นอาจดีดกลับขึ้นเหนือ $107 ได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีนาคม - มุมมองลบ (BEARISH):
หากผลประกอบการต่ำกว่าคาด และแสดงความกังวลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชะลอลงจากภาษี หรือแย่ไปกว่านั้นคือ ถอนคำแนะนำผลประกอบการทั้งปี หุ้นอาจร่วงลงมาเปิดที่ราว $89 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบปี/รอบ 5 ปี
แนวโน้มในอีก 12 เดือนข้างหน้า
นักวิเคราะห์จาก Wall Street มีมุมมองค่อนข้างเป็นกลาง:
• คำแนะนำ “ถือ” 23 ราย
• “ซื้อ” 14 ราย
• “ขาย” 2 ราย
อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดการณ์ว่า หุ้น Target อาจมีอัพไซด์อีก 20.8% ภายใน 12 เดือนข้างหน้า หรือแตะระดับ $118.51 ภายในเดือนพฤษภาคม 2026
แน่นอนว่า การคาดการณ์เหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงอย่างมากในอีกไม่กี่ชั่วโมง ตามสิ่งที่ Target จะสื่อสารออกสู่ตลาด
การประกาศผลประกอบการของ Target ครั้งนี้ อาจให้เบาะแสล่าสุดเกี่ยวกับภาวะการบริโภคภายในประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมกับสร้างโอกาสการเทรดระยะสั้นหลังข่าวทันที
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: FXTM
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหานี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนตัว ซึ่งไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำในการลงทุน หรือชักชวนให้ทำธุรกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งยังไม่รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต FXTM และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายจากการลงทุนตามข้อมูลนี้
คำเตือนความเสี่ยง: CFD เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียเงินอย่างรวดเร็วจากการใช้เลเวอเรจ คุณควรพิจารณาว่าคุณเข้าใจผลิตภัณฑ์เหล่านี้ดีหรือไม่ และสามารถรับความเสี่ยงดังกล่าวได้หรือไม่
ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: เนื้อหาในบทความนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นส่วนตัวและไม่ควรตีความเป็นคำแนะนำส่วนตัว และ/หรือคำแนะนำด้านการลงทุนอื่น ๆ และ/หรือข้อเสนอ และ/หรือคำชักชวนสำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ในตราสารทางการเงิน และ/หรือการรับประกัน และ/หรือการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต ForexTime (FXTM) พันธมิตร ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของบริษัทจะไม่รับประกันความเที่ยงตรง ความถูกต้อง ความทันเวลาหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลใด ๆ หรือข้อมูลที่พร้อมใช้และถือว่าไม่มีความรับผิดต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการลงทุนใด ๆ ที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน